หมวดหมู่: สุขภาพ

อาการหลับไม่สนิทจะแก้ได้อย่างไร

สมัยนี้การนอนหลับพักผ่อน ถือว่าเป็นที่จำเป็นและสำคัญมากต่อร่างกายของคนเรา เพราะในแต่ละวันร่างกายของคนเรานั้นได้ใช้พลังงานไปมากมายอย่างหนักและเต็มที่ จึงทำให้เรารู้สึกเพลีย หรือทำให้รู้สึกเหนื่อยนั่นเอง การนอนหลับพักผ่อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อร่างกายนั้น

คนเราก็จะมีการนอนหลับที่ไม่เหมือนกัน สำหรับบางคนหากทำงานมาเหนื่อยๆแล้ว ก็ต้องนอนหลับให้เต็มอิ่ม แต่สำหรับบางคนการนอนก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน แต่หากทำงานมาเหนื่อย ๆ ก็ใช่ว่าจะได้นอนอย่างเต็มที่ เพราะแต่ละคนนั้นก็มีการใช้ชีวิตในประจำวันที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

โดยเฉพาะในสมัยนี้  การใช้ชีวิตนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และผู้คนในสมัยนี้ก็มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน จึงทำให้ใครหลายคนนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอต่อร่างกาย จนก่อให้เกิดโรคนอนไม่หลับขึ้นได้ แต่โรคนี้ก็อาจจะมีรูปแบบของอาการที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น การนอนหลับไม่สนิท การหลับ ๆ ตื่น ๆ การตื่นกลางดึก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากใครที่กำลังพบเจอกับปัญหาต่าง ๆ นี้ แต่ยังไม่มีวิธีแก้ และไม่รู้ว่าจะแก้ด้วยวิธีใด วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับง่าย ๆ ที่สามารถทำให้อาการหลับไม่สนิทของคุณนั้นหายไป และทำให้การนอนหลับพักผ่อนของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลย

การจัดที่นอน ที่นอนเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ หากใครที่มีปัญหาการนอนหลับไม่สนิท แนะนำว่าให้ลองจัดการกับที่นอนให้ ลองเปลี่ยน หรือตกแต่งที่นอนให้น่านอนมากขึ้น หรือทำให้ห้องมีอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการนอน เป็นห้องที่เงียบสงบ เพราะการพักผ่อนที่ดีคือการที่พาร่างกายไปพักผ่อนในที่ที่เงียบสงบ จึงจะเรียกว่าการพักผ่อนจริง ๆ 

ไม่ควรกินอาหารมื้อหนัก นอกจากร่างกายของเราจะเกิดอาการนอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิทแล้ว การที่เรารับประทานอาหารมื้อหนัก จะยิ่งทำให้ร่างกายของเรามีอาการเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อาการต่าง ๆ ที่อาจมารบกวนเวลานอนของเรา ดังนั้น หากต้องการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อร่างกาย ควรรับประทานอาหารมื้อเบา ๆ ก่อนเข้านอน หรืออาหารที่สามารถย่อยได้ง่ายจะดีกว่า

หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ การดื่มกาแฟเป็นประจำนอกจากจะช่วยลดอาการง่วงแล้ว ยังส่งผลให้การนอนของเราไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้น หากใครที่มีอาการนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ หลับไม่สนิท ให้ลองงดการดื่มชากาแฟ เผื่อจะช่วยให้อาการเหล่านี้ลดลงได้ 

 

 

สนับสนุนโดย    แทงหวย

วิธีเพิ่มพลังสมอง

           ในชีวิตคนเรานั้นแต่ละวันจะต้องมีการใช้ความคิดซึ่งการใช้ความคิดนี้เองก็คือการใช้มันสมองในการทำงานและถ้าเราใช้มากๆสมองของเราก็อาจจะเพลียเหนื่อยล้าได้เช่นเดียวกันระบบความคิดอาจจะประสิทธิภาพลดลงได้ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของวิธีการเพิ่มพลังให้กับสมองเพื่อที่เราจะได้มีความพร้อมในการทำงานในแต่ละวันนั้นเอง

           เราสามารถเพิ่มพลังสมองของเราได้ด้วยการเล่นเกมการที่เราหัดเล่นเกมบ่อยๆหัดนึกคิดวิเคราะห์ต่างๆจะเป็นการพัฒนาสมองและทำให้สมองและระบบประสาทมีการเชื่อมต่อกันเนื่องจากว่าสมองของเรานั้นจะต้องมีการประมวลผลเพื่อรับรู้สิ่งใหม่ๆและคิดค้นสิ่งใหม่ๆการที่เราคิดหรือเราเล่นเกมมันจะไปกระตุ้นให้สมองของเรานั้นมีการพัฒนาและมีการใช้งานอยู่ตลอดเวลาทำให้เรานั้นมีความจำที่ดีซึ่งปกติแล้วคนที่สูงอายุนั้นควรจะต้องมีการฝึกเล่นเกมหรือฝึกนักคิดไวๆเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการเป็นโรคอัลไซเมอร์ในอนาคตนั่นเอง 

        การฟังเพลงคลาสสิคก็สามารถช่วยเพิ่มพลังสมองให้ได้เช่นเดียวกันเพราะเป็นการกระตุ้นให้สมองนั้นได้ผ่อนคลายจากเสียงที่เราฟัง  สำหรับการฟังเพลงคลาสสิคนั้นเราควรที่จะมีการเปิดฟังในช่วงเวลาเช้าเพื่อเป็นการกระตุ้นสมองให้มีการทำงานตั้งแต่เช้าซึ่งเราอาจจะเอาเวลาช่วงเวลาที่เราอาบน้ำแต่งตัวนั่นเองในการเปิดเพลงฟังแล้วทำให้เราอารมณ์ดีและมีสมาธิ

          การออกกำลังกายก็เป็นการเพิ่มพลังให้สมองได้เช่นเดียวกันหลายคนมองว่าการออกกำลังกายนั้นเป็นการฝึกให้ร่างกายและจิตใจนั้นแข็งแรงแต่อันที่จริงแล้วมันสามารถพัฒนาสมองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วยเนื่องจากว่าเมื่อเรามีการออกกำลังกายนั้นร่างกายจะมีสารชนิดหนึ่งหลั่งออกมาซึ่งสารชนิดนี้จะไปทำการเชื่อมต่อกับระบบประสาททำให้สมองของเรานั้นมีการพัฒนาวิเคราะห์และมีความจำที่ดีขึ้นสามารถตัดสินใจและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

            การทำสมาธิก็ส่งผลต่อไปยังสมองได้เช่นเดียวกันไม่เพียงแค่ส่งผลทางด้านจิตใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเพราะเมื่อเรามีสมาธิเราจะมีสติและเมื่อมีเหตุการณ์คับขันอะไรเกิดขึ้นเราก็จะไม่ตื่นวิตก โดยการมีสมาธินั้นมันจะส่งผลต่อเซลล์สมองของเราด้วยเพราะถ้าหากเรามีสมาธิเซลล์สมองของเราในส่วนที่พัฒนาเรื่องของการกลัวนั้นก็จะลดลงนั่นเอง

        ดังนั้นสิ่งต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นนั้นซึ่งจึงควรเป็นสิ่งที่เราต้องทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อที่สมองของเรานั้นจะได้มีพลังพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของโรคความจำเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ในอนาคตนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.  แทงหวย

อันตรายจากการใช้แป้งฝุ่น

              เชื่อว่าบ้านทุกบ้านต้องมีแป้งฝุ่นติดบ้านกันทุกหลังอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนหนุ่มสาว รวมถึงคนแก่ ต่างก็ใช้แป้งฝุ่นด้วยกันทั้งนั้น ถึงแม้จะเป็นเด็กทารกก็ยังมีการใช้แป้งฝุ่น อย่างไรก็ตามมีการวิจัยออกมาแล้วว่าการใช้แป้งฝุ่นนั้น ไม่ได้เกิดผลดีเพียงอย่างเดียวเพียงเท่านั้น แต่การใช้แป้งฝุ่นในในบางจุดของร่างกายอาจจะเกิดให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้เช่นเดียวกัน

           สาเหตุที่ว่าทำไมการใช้แป้งฝุ่นถึงอาจจะทำให้เป็นโรคมะเร็งได้นั้นก็เพราะว่าในแป้งฝุ่นนั้นจะมีแร่ธาตุตัวหนึ่งที่เป็นส่วนผสมอยู่ในแป้งฝุ่นโดยแร่ชนิดนี้เป็นแร่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการช่วยลดความอับชื้น ทำให้ในแป้งฝุ่นจึงมักมีแร่ชนิดนี้ผสมอยู่ โดยแร่ดังกล่าวมีชื่อว่า ทัลคัม

             สำหรับการวิจัยออกมานั้นพบว่า แร่ทัลคัมนี้เองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงในการเกิดโรคมะเร็ง โดยมะเร็งที่เสี่ยงเป็นมากในการใช้แป้งฝุ่นนั่นก็คือ มะเร็งรังไข่กับมะเร็งปอดนั่นเอง

                 สำหรับวิธีการใช้แป้งฝุ่นที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งทั้งเรื่องของมะเร็งปอดรวมถึงมะเร็งรังไข่นั่นก็คือหากเรามีการทา แป้งตรงบริเวณอวัยวะเพศนั้นมีความเสี่ยงเป็นอย่างมากที่จะทำให้แป้งซึ่งมีส่วนผสมของแร่ทัลคัมกระจายเข้าไปในมดลูกและเข้าไปถึงรังไข่ได้  ดังนั้นจึงห้ามใช้แป้งตรงบริเวณอวัยวะเพศนั้นเอง

                  ในขณะเดียวกันการใช้แป้งก็ไม่ควรใช้ให้แป้งมีความฝุ้งกันไปมากเกินไปเพราะถ้าหากเรามีการสูดดมแป้งเข้าไปเข้าภายในร่างกายมันจะส่งต่อผงแป้งเข้าไปในปอดได้ และจะส่งผลทำให้เรากลายเป็นมะเร็งปอดนั่นเอง

              ดังนั้นการใช้แป้งอย่างปลอดภัยนั่นก็คือการทาบริเวณลำตัวงดการทาบริเวณอวัยวะเพศและการใช้แป้งนั้นควรทาอย่างระมัดระวังพยายามอย่าให้แป้งพุ่งกระจายเข้าไปบริเวณปากหรือแม้แต่จมูกหรือเข้าตาได้เป็นอันขาดและถ้าหากต้องจำเป็นใช้แป้งกับเด็กทารกนั้นควรใช้แป้งอย่างระมัดระวังที่สำคัญควรเลือกแป้งสำหรับใช้กับเด็กเพียงเท่านั้น

         อย่างไรก็ตามได้มีการทำการวิจัยออกมาแล้วว่าผู้ที่มีการใช้แป้งทาตรงบริเวณอวัยวะเพศเป็นระยะเวลาติดต่อกันนานหลายปีมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเป็นโรคมะเร็งและเคยมีข่าวฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องของการเป็นโรคมะเร็งกับแป้งยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งมาแล้วซึ่งถ้าหากว่าใครสงสัยว่าตนเองจะมีความผิดปกติหลังจากที่มีการใช้แป้งฝุ่นคุณก็สามารถที่จะไปที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการตรวจและวินิจฉัยอาการให้ได้

 

สนับสนุนโดย.    แทงหวย

How toเมื่อต้องดูแลตัวเอง หากเป็นโรคภูมิแพ้ 

            ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักมีอาการของการเป็นโรคภูมิแพ้ซึ่งโดยปกติแล้วโรคภูมิแพ้นั้นมักจะเป็นกันมาตั้งแต่เกิดหรือบางคนก็อาจจะมาเป็นภายหลังหลังจากที่โตขึ้นมาแล้วก็เป็นไปได้เช่นเดียวกันซึ่งอาการของโรคภูมิแพ้นั้นมีได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นอาการผื่นขึ้นตามตัวหรืออาการคันตามตัวบางคนจะมีลักษณะของอาการจามและคัดจมูก

          โดยส่วนใหญ่แล้วโรคภูมิแพ้นั้นมักจะรักษาไม่ค่อยหายแต่จะมีอาการตามสภาพของอากาศนั่นเองดังนั้นหากใครเป็นโรคภูมิแพ้แล้วก็  วันนี้เราจะมาแนะนำว่าวิธีการต้องดูแลตัวเองนั้นจะทำอย่างไรได้บ้าง

        แน่นอนว่าอาการภูมิแพ้นั้นส่วนใหญ่เรามักจะกำเริบเพราะร่างกายนั้นอ่อนแอดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคุณควรจะต้องมีการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายของคนนั้นแข็งแรงเพราะเมื่อร่างกายของคุณแข็งแรงเมื่อไหร่วะภายในของคนนั้นก็จะแข็งแรงตามไปด้วยและมันจะสามารถต่อสู้กับโรคภูมิแพ้ได้นั่นเอง

     ในขณะเดียวกันนั้นนอกจากการที่คุณจะต้องออกกำลังกายแล้วการพักผ่อนก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกันถ้าหากว่าคุณนอนน้อยอาการโรคภูมิแพ้ก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายดังนั้นอย่างน้อยที่สุดควรจะต้องมีการนอนไม่ต่ำกว่าวันละ 6 ชั่วโมงหรือถ้าให้เพียงพอจริงๆก็ควรจะนอนวันละ 8 ชั่วโมงจะทำให้ร่างกายของคุณสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาและจะทำให้โรคภูมิแพ้นั้นมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้นได้ 

     นอกจากนี้คุณยังต้องเสริมทัพความแข็งแรงของร่างกายของคุณด้วยการเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์มีคุณภาพซึ่งเมื่อคุณกินอาหารดีๆมันก็จะไปช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายของคุณได้เช่นเดียวกันดังนั้นอาหารที่ดีและมีประโยชน์จึงได้แก่โปรตีนผักและผลไม้นั้นเอง

           เหนือสิ่งอื่นใดจากการที่กล่าวมาข้างต้นนั้นแล้วคนที่เป็นโรคภูมิแพ้นั้นควรจะต้องมีการหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดโรคได้ง่ายเช่นอาจจะหลีกเลี่ยงไปในจุดที่มีฝุ่นละอองเยอะหรือถ้าหากใครแพ้ขนแมวก็ควรจะหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้แมวหรือไทยที่แพ้เกสรดอกไม้ก็ควรจะหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ดอกไม้นั่นเอง

        ซึ่งถ้าหากเราสามารถที่จะหลีกเลี่ยงออกจากสิ่งที่ทำให้อาการภูมิแพ้ของเรากำเริบได้มันก็จะสามารถช่วยให้เรานั้นควบคุมอาการภูมิแพ้ไม่ให้กำเริบขึ้นมาได้นั่นเองแต่อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าเราดูแลตัวเองเป็นอย่างดีแล้วแต่ยังคงมีอาการภูมิแพ้อยู่และไม่หายขาดคุณควรจะต้องไปติดต่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้โดยเฉพาะเพื่อให้มีการตรวจและวินิจฉัยรวมถึงหาสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้และแนวทางในการรักษานั่นเอง ห้ามซื้อยามากินเองอย่างเด็ดขาด 

      

สนับสนุนโดย.  แทงหวย

รู้หรือไม่ต้องทำอย่างไร  ถ้าคุณอยู่ใกล้ชิดกับคนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 

          ในตอนนี้หลายคนกำลังเจอกับปัญหาว่าตนเองนั้นต้องมารับรู้ว่าคนใกล้ชิดของตนนั้นติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับคนที่รู้ว่าคนใกล้ชิดของตนเองซึ่งเคยไปเที่ยวหรือเคยไปสังสรรค์เฮฮาปาร์ตี้ร่วมกันหรือแม้แต่คนในครอบครัวติดไวรัสโควิด-19 นั้นต่างก็รู้สึกใจตุ้มตุ้มต่อมต่อมเลยทีเดียวว่าตนเองนั้นจะติดไวรัส covid-19  ด้วยหรือไม่

          หลายคนก็มีคำถามว่าถ้าหากว่าคนในครอบครัวหรือคนที่เรารู้จักสนิทชิดเชื้อผลตรวจไวรัส covid –19 ออกมาเป็นบวกแล้วเราควรจะทำตัวอย่างไรวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการให้ทราบกันว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากที่รู้ว่าคนใกล้ชิดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นคุณต้องทำอย่างไรบ้าง  หลายคนอาจจะยังไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนนั่นเอง

        สำหรับคนที่รู้ว่าคนใกล้ชิดกับตนเองนั้นติดเชื้อไวรัสโควิช- ครั้งแรกที่ต้องรีบทำเลยก็คือ ลอง นึกทบทวนให้ดีว่าในช่วง 14 วันก่อนหน้านั้นได้มีการอยู่ใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ซึ่งถ้าหากมีการใกล้ชิดกันเคยไปเที่ยวด้วยกันหรืออาจจะเคยสัมผัสร่างกายกันคุณควรจะต้องรีบไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19

         เพราะเนื่องจากว่าคุณคือกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดและ  และถ้าผลตรวจออกมาแล้วปรากฏว่าเป็นลบคุณก็ยังต้องกักตัวอย่างน้อย 14 วันเพื่อสังเกตอาการอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะมีการตรวจซ้ำครั้งที่ 2 ซึ่งการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิช- ยังแค่กลางเดือนนั้นอาจจะทำให้ผลคาดเคลื่อนได้เพราะบางทีเชื้อยังไม่แสดงอาการจึงทำให้ตรวจไม่เจอดังนั้นควรตรวจอย่างต่ำ 2 ครั้งโดยเว้นระยะห่างกันนั่นเอง

      อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าเราไม่ได้สัมผัสกับผู้ที่ป่วยติดเชื้อไวรัส covid –19 และเพียงแค่อยู่ใกล้ๆกันเพียงเท่านั้นถือว่าคุณยังเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเช่นเดียวกันซึ่งคุณอาจจะใช้วิธีกักตนเองและสังเกตอาการดูก่อน  แต่ถ้าหากให้ชัวร์มากที่สุดก็ควรจะต้องไปทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิคด้วยเช่นเดียวกันอย่างไรก็ตามในระหว่างที่คุณกับตัวนั้นคุณจะต้องไม่มีการเข้าใกล้กับคนอื่นๆในครอบครัวโดยคุณจะต้องแยกการใช้งานข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างแม้แต่ห้องน้ำก็ไม่ให้ใช้ร่วมกับคนอื่นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19  หากว่าคุณมีการติดเชื้อนั่นเอง 

         ถ้าหากกักตัวครบ 14 วันแล้วไม่มีอาการอะไรเกิดขึ้นก็ลองตรวจหาเชื้อไวรัส covid-19 สักครั้งหนึ่งเพราะบางทีเชื้อไวรัสโควิช- บางสายพันธุ์ก็ไม่แสดงอาการและถ้าหากผลเป็นลบออกมาก็แสดงว่าคุณสบายใจได้แล้วว่าคุณไม่มีเชื้อไวรัส covid –19 อย่างแน่นอนคุณก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติของคุณได้เองแต่ไม่ควรลืมที่จะสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งและล้างมือบ่อยๆ

 

สนับสนุนโดย.  แทงหวย

7ข้อพิษร้ายของน้ำตาลที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

ข้อแรกก็คือ พิษต่อหลอดเลือด ซึ่งหลอดเลือดไปที่ไหนก็จะเกิดปัญหาไปที่สมองหลอดเลือดไปที่หัวใจหลอดเลือดไปที่ไตแขนขาลูกตา

เมื่อไหร่ก็ตามที่หลอดเลือดมีปัญหาหลอดเลือดไปที่สมองมีปัญหาจะเกิดอะไรก็เป็นอัมพาตหลอดเลือดไปที่หัวใจมีปัญหาจะเกิดอะไรหัวใจขาดเลือดหลอดเลือดไปที่ไตก็จะมีปัญหาไตวายเรื้อรังฟอกไตไปตลอดชีวิตหลอดเลือดไปที่แขนขามีปัญหาแขนขาโดนตัดหลอดเลือดไปที่ตามีปัญหาตาบอด

พิษร้ายข้อที่สองก็คือ พิษร้ายต่อตับอ่อน เมื่อน้ำตาลเข้าไปในร่างกายเยอะๆจะกระตุ้นให้ตับอ่อนสร้างอินซูลินเมือ่กระตุ้นบ่อยๆตับอ่อนหมดแรงตับอ่อนหมดอายุตับอ่อนเมื่อการทำงานลดเหลือ50%โดยทำลายไปครึ่งนึงแล้วก็จะเริ่มมีภาวะเบาหวานเพิ่มขึ้นเมื่อเบาหวานถามหาชีวิตของท่านก็จะเปลี่ยนไป

พิษข้อที่สามก็คือ พิษทำให้หน้าแก่เร็ว อันตรายมากๆพวกนี้จะทำให้เรื่องของคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวหน้าของเรามันเสื่อมสภาพมันจะทำให้หน้าเราเหี่ยวมีรอยตีนกาแล้วก็แก่ก่อนวัยอายุ60หน้าจะเหมือนคนอายุ80อายุ40อาจจะเหมือนคนอายุ60อันนี้อันตรายมากบางคนเกิดจุดด่างดำขึ้นบนใบหน้าอนตรายจริงๆ

พิษข้อที่สี่ก็คือ ทำให้ร่างกายเซื่องซึม การรับประทานน้ำตาลในปริมาณที่พอดีก็อาจจะทำให้ร่างกายของเราสดชื่นแต่การรับประทานในปริมาณมากจะทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงและลดลงอย่างรวดเร็วแบบนี้ร่างกายเราจะสดชื่นแค่เพียงแปบเดียวแล้วก็เศร้าแบบนี้พอเป็นนานๆ

บางคนทำให้ร่างกายเซื่องซึมมากและต้องการน้ำตาลอยู่ตลอดถ้าไม่มีน้ำตาลไม่ได้มีอะไรมากระตุ้นเราก็จะซึมไปตลอดเวลามีวิจัยบางอันเลยว่าผู้ที่รับประทานน้ำตาลมากๆมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าปกติเลยทีเดียวเพราะฉะนั้นแล้วให้ระมัดระวัง

พิษร้ายข้อที่ห้าก็คือ ปัญหาน้ำหนักเกิน น้ำตาลส่วนเกินเวลาที่เรารับประทานเข้าไปเยอะๆและเราไม่ใช้ไม่ออกกำลังกายมันไปเก็บที่ไขมันไปเก็บที่ตับอันตรายมากๆยิ่งอ้วนและเป็นโรคตับด้วยไขมันฟอกตับมากมาย

พิษร้ายข้อที่หก ก็คือ เสี่ยงการเกิดสิว ตัวน้ำตาลจะกระตุ้นทำให้ร่างกายสร้างแอนโดรเจนมากขึ้นนำไขมันบนใบหน้ามากขึ้นหน้ามันมากขึ้นมีวิจัยเลยว่ามีโอกาสเกิดสิวมากกว่าปกติถึง30%

พิษร้ายข้อที่เจ็ด ก็คือ ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ โครโมโซมเสื่อมสภาพโต้งเทโลเมียร์ที่ปลายโครโมโซมจะสั้นลงมากลงไปกว่าปกติแบบนี้ก็จะทำให้เซลล์ในร่างกายของเราเสื่อมสภาพลงได้ง่าย

 

สนับสนุนโดย.  หวยออนไลน์

นอนท่าไหนช่วยให้สุขภาพดี

การนอนหลับพักผ่อน เป็นสิ่งที่ร่างกายของเราต้องการเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องมาจากการใช้ชีวิตในแต่ละวันเต็มไปด้วยเรื่องที่ทำให้ปวดหัว และเรื่องวุ่นวายไปหมด จึงทำให้ร่างกายเกิดการอ่อนเพลียและเหนื่อยได้ ดังนั้นการนอนจึงเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด แต่ถ้าจะให้ดีควรที่มีท่าให้การนอน จะยิ่งช่วยให้ผ่อนคลายได้มากขึ้น

เพราะในแต่ละท่านอนก็จะมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไป ถ้าจะให้หลับได้ดีควรจะนอนท่าไหน ซึ่งในแต่ละท่าอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคประจำตัวก็ได้ เพราะผู้ที่เป็นโรคอยู่แล้วนั้นหากนอนในท่าที่ไม่เหมาะสมอาจจะเกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตขึ้นได้ ดังนั้น การนอนในแต่ละท่าจึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก เรามาดูกันว่ามีท่านอนไหนบ้าง ที่นอนแล้วจะช่วยให้สุขภาพดีและมีประสิทธิภาพในการนอนได้มากยิ่งขึ้น 

ท่านอนหงาย เรียกได้ว่าเป็นท่าเบสิกที่คนปกตินิยมกันอยู่แล้ว ซึ่งข้อดีของการนอนท่านี้ก็คือ ช่วงระหว่างต้นคอจะอยู่ในระนาบเดียวกันกับร่างกายของเราถ้าไม่หนุนหมอน แต่หากผู้ที่ชอบนอนหมอนสูง ๆ อาจจะทำให้ปวดคอได้ โดยท่านี้กะบังลมที่คั่นระหว่างปอดและช่วงท้องเกิดการทับกันทำให้เกิดการหายใจลำบากมากขึ้น โดยท่านี้จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับปอด เพราะจะยิ่งทำให้หายใจลำบากมากยิ่งขึ้น ดังนั้น หากใครที่ชอบนอนท่าหงายควรจะจัดสัดส่วนของร่างกายให้เหมาะสมกับการนอนจะดีที่สุด 

ท่านอนคว่ำ ท่านี้ส่วนใหญ่เป็นท่าที่ทารกใช้นอน เพราะเชื้อว่าหากให้เด็กนอนท่านี้แล้ว จะทำให้รูปหัวนั้นทุยสวย ไม่แบน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในปัจจุบันหากให้ทารกนอนท่านี้แล้วอาจจะส่งผลให้ทารกมีอาการหายใจไม่ออกได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ที่นอนท่านี้ ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้เช่นกัน และสำหรับใครที่เป็นโรคประจำตัวก็ไม่ควรที่จะนอนท่านี้เด็ดขาด อย่างไรก็ตาม หากอยากสุขภาพดี นอนท่าไหนก็หายปวดเมื่อย ก็ควรเลือกท่านอนที่เหมาะสมกับร่างกายตนเองจะดีที่สุด

ท่านอนตะแคง การนอนในท่าตะแคงสามารถช่วยลดอาการปวดหลังของเราได้ แต่ทั้งนี้ การนอนตะแคซ้าย การนอนตะแคงขวาก็มีประสิทธิภาพแตกต่างกันออกไป โดยการนอนตะแคงซ้ายช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ แต่ต้องมีการใช้หมอนข้างช่วยด้วย ซึ่งข้อเสียของการนอนตะแคงซ้ายนั้นจะทำให้หัวใจของเรานั้นเกิดการเต้นลำบากมากขึ้น และในส่วนของการนอนตะแคงขวานั้น เรียกได้ว่าเป็นท่านอนที่ดีที่สุด เพราะจะทำให้การเต้นของหัวใจนั้นเต้นได้สะดวกมากขึ้น และก็ยังเป็นท่าที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้เหมือนกัน

 

 

สนับสนุนโดย    สมัครเว็บหวยฮานอย

เมื่อไปเดินห้างสรรพสินค้าควรเลี่ยงจับจุดเสี่ยงต่อไปนี้ เพื่อลดความเสี่ยงของการติดโควิด-19

             ในช่วงเวลานี้ประชาชนทุกคนไม่ว่าจะเป็นของประเทศไทยหรือแม้แต่ของต่างประเทศต่างก็พากันหวาดกลัวเจ้าโรคร้ายอย่างไวรัส covid กันมากเพราะแน่นอนว่าเมื่อเป็นแล้วยังไม่มียารักษาให้หายและในขณะนี้สำหรับประเทศไทยเองวัคซีนก็ยังไม่มีการแจกให้กับประชาชนดังนั้นเวลาที่จะเดินทางไปที่ไหนจึงเป็นความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ติดเชื้อไวรัส covid-19 ได้

      จะเห็นได้ว่าในขณะนี้นั้นในหลายจังหวัดเริ่มมีผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มมากขึ้นส่วนหนึ่งนั่นก็เพราะว่าในช่วงที่ไวรัสระบาดในรอบแรกนั้นสถานการณ์ของคนไทยสามารถควบคุมการระบาดได้เป็นอย่างดีทำให้บางคนเกิดความชะล่าใจไม่ป้องกันตนเองซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นว่าจะไม่ค่อยสมใส่หน้ากากอนามัยกันมากนักและบางคนนั้นก็ยังหยิบจับสิ่งของข้างนอกบ้านโดยที่ไม่ยอมใช้เจลล้างมือหรือไม่ยอมไปล้างมือทำให้ไวรัสโควิคมานั่นเอง

        ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงจุดเสี่ยงที่อาจจะทำให้เราติดเชื้อไวรัส covid -19ได้หากเราไม่เกิดความระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราไปเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้าแล้วก็บางคนนั้นมักจะมีความประมาทเลินเล่อเดินผ่านไม่ว่าจะเป็นลิฟท์หรือขึ้นบันไดเลื่อนก็มักจะจับนู่นจับนี่โดยที่ไม่หวาดกลัวเลยว่าสิ่งที่จะไปนั้นอาจจะมีเชื้อไวรัสปะปนอยู่

               ดังนั้นเราจะมาแนะนำให้ว่าในห้างสรรพสินค้ามีอันไหนบ้างที่เป็นจุดเสี่ยงและเราควรหลีกเลี่ยงหรือถ้าหากเราเผลอไปจับเข้าก็ควรที่จะไปล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือไม่ก็ควรจะต้องรีบใช้เจลล้างมือเพื่อความปลอดภัยของตนเองลดความเสี่ยงในการติดโควิค-19นั่นเอง 

    อันดับแรกเลยปกติเวลาที่เราไปซื้อของในห้างสรรพสินค้าเราจะต้องมีการเข็นรถเข็นซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่าบริเวณที่จับรถเข็นนั่นเองคือจุดเสี่ยงมากที่อาจจะทำให้คนติดเชื้อไวรัสได้เพราะไม่ว่าใครเดินทางมาซื้อของในห้างทุกคนก็จะต้องมีการเข็นรถเข็นในการที่จะหยิบสิ่งของที่ซื้อดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของเราเราจึงจำเป็นที่จะต้องมีการใช้เจลแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดมือหรือไม่ก็ไปล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งหลังจากที่มีการจับราวรถเข็นแล้วเพื่อไม่ให้เชื้อนั้นติดมาสู่ตัวเราได้นั่นเอง 

          นอกจากนี้เวลาที่เราเดินขึ้นลงบันไดเลื่อนนั้นผู้คนส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ยืนเฉยๆแต่ด้วยความกลัวตกบันไดเลื่อนก็มักจะมีการจับราวบันไดเลื่อนและบริเวณราวบันไดเรื่องนี่เองที่มักจะมีเชื้อโรคมากมายเต็มไปหมดเพราะไม่ว่าใครที่ขึ้นมาบนบันไดเลื่อนก็มักจะมีการจับราวซึ่งบางครั้งคนที่จับราวบันไดเลื่อนมาก่อนหน้าเราอาจจะไม่ได้ล้างมือและขจัดสิ่งสกปรกมาและยิ่งช่วงนี้ยิ่งมีการแพร่ระบาดของไวรัสดังนั้นทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการจับราวบันไดเลื่อนจะเป็นการดีที่สุดหรือถ้าหากเผลอหลับไปแล้วแล้วก็ควรจะรีบล้างมือใช้เจลแอลกอฮอล์หรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้อก็ได้ 

 

สนับสนุนโดย    ถ่ายทอดสดหวยฮานอยวันนี้

ประกันสุขภาพคืออะไรมีวิธีการเลือกอย่างไร 

เรียกได้ว่าตอนนี้เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเต็มตัวแล้วเชื่อว่าหลายคนที่กำลังเดินทางไปมาอยู่มักจะเกิดความร้อนและเหงื่ออาจจะมีส่วนที่ทำให้พวกคุณนั้นรู้สึกไม่สบายตัวเอาอย่างมากๆ แถมโรคภัยไข้เจ็บที่มากับหน้าร้อนแบบนี้ก็มีอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคท้องร่วงหรือแม้แต่โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากอากาศร้อนด้วยกันทั้งสิ้น 

นอกจากนี้ก็ยังมีโรคภัยต่างๆอย่างเช่นโรคไข้หวัดนะคะและก็ยังไม่รวมโรคร้ายต่างๆ ได้แก่มะเร็ง ความดัน เบาหวาน อาหารเป็นพิษ เป็นต้น ที่พูดมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างที่เป็นโรคร้ายที่เกิดจากอากาศในช่วงนี้ที่ส่งผลว่าร้อนเหลือเกินดังนั้นถ้าหากคุณอยากมีสุขภาพที่ดีปราศจากโรคเหล่านี้จะต้องปฏิบัติตัวดังนี้ 

ถ้าหากเราพูดถึงเรื่องของสุขภาพหรือถ้าหากพวกเราจำเป็นที่จะต้องทำการรักษาสุขภาพของพวกเรานั้นจำเป็นที่จะต้องจ่ายแพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ซึ่งข้อมูลของการทำประกันสุขภาพว่าจะต้องทำอย่างไรและจะต้องทำเมื่อไหร่ ในวันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันคะ

การประกันสุขภาพมีความสำคัญมากโดยมันจะเกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลและยังเกี่ยวข้องกับการกระจายความเสี่ยงของเราอีกด้วยโยมันเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่เราว่าเมื่อเรานั้นเกิดเจ็บหรือป่วยขึ้นมาเราจะได้ทำการรักษาอย่างดีและก็ยังมีรายได้แบบต่อเนื่องอีกด้วย และไม่ไปกระทบส่วนอื่นๆของเรา

ประกันสุขภาพจะแบ่งออกได้หลากหลายหมวดหมู่ด้วยกัน 

1.กรณีที่ผู้เอาประกันต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลอาจจะเกิดจากการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือเกิดจากอุบัติเหตุก็ตาม 

2.กรณ๊ผู้ได้เอาประกันจะต้องได้รับการเข้าผ่าตัด โดยจะต้องเกี่ยวกับการรักษาที่เกิดจากการผ่าตัดทั้งหมดนั้น

3.ในกรณีที่ผู้จะเอาประกันจะต้องทำการเข้ารักษาเกี่ยวกับเรื่องของฟัน

4.ในกรณีที่ผู้เอาประกันมีการคลอดบุตร

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นประเภทของผู้ใช้ประกัน โดยจะมีรายละเอียดยิบย่อยเพิ่มเติมไปอีก ซึ่งส่วนมากที่จะต้องทำกันก็คงเป็นประกันสุขภาพที่ได้รับความนิยม ส่วนใหญ่ที่ชอบซื้อประกันก็คือรักษาในโรงพยาบาลและก็ชดเชย เพราะสิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ

 ถ้าหากว่าคุณป่วยก้ไม่สามารถที่จะไปทำงานได้แถมค่าใช้จ่ายก็ต้องเสีย และหยุดงานก็ขาดรายได้ดังนั้นการซื้อประกันประเภทสุขภาพจึงควรที่จะต้องทำเอาไว้ เพราะมันสำคัญและจำเป็นมากในกรณีที่เป็นอุบัติเหตุหรือมีโรคเพิ่มเราก็สามารถที่จะซื้อประกันเพิ่มได้ด้วยนะ 

ซึ่งก่อนที่เราจะทำการซื้อประกันนั้นเราจำเป็นที่จะต้องศึกษาก่อนนะว่าเรามีประกันอะไรอยู่บ้างซึ่งจะได้ไม่ต้องไปซ้ำกันและจะได้ไม่ต้องเสียเรานั้นทิ้งไปเปล่าเราควรที่จะซื้อประกันเพิ่มเติมจากที่เราไม่มีเพื่อเป็นการตอบโจทย์ในหลายๆเรื่องดังนั้นถ้าหากคุณกำลังหาซื้อประกันอยู่จะต้องทำการเช็คตัวเองแต่ก่อนว่ามีประกันอะไรอยู่แล้วบ้างแล้วค่อยซื้อเพิ่มเติมเอาถึงจะดีกว่า

 

สนับสนุนโดย.    เว็บหวยลาวชุด

วิธีที่จะช่วยคุณป้องกันเส้นเลือดในสมองแตกตีบได้เป็นอย่างดี

สำหรับวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องวิธีที่จะป้องกันแตก ป้องกันเส้นเลือดในสมองตีบเพราะว่าไม่ว่าจะแตกหรือตีบสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นกับท่านก็คือเป็นอัมพาตอันนี้น่ากลัวมากๆเป็นอัมพาตมันก็มีทั้งน้อยแบบเช่นแค่ขยับนิ้วมือไม่ได้หรือไม่รู้เรื่อเป็นเจ้าชายนิทรามีหลากหลายมีหลายระดับ

โดยถ้าไม่เป็นเลยจะดีที่สุดก็ต้องบอกตามนี้ว่าโดยปกติแล้วการเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบมันก็มีผลทางกรรมพันธุ์ด้วย

ซึ่งถ้ามันเป็นแนวทางกรรมพันธุ์เราก็คงไม่สามารถไปแก้ไขมันได้ใช่ไหมเพียงแต่ว่ามันมีหลายอย่างที่มันไม่ได้เกี่ยวกับกรรมพันธุ์และท่านสามารถแก้ไขมันได้และวันนี้เราจะมาบอกวิธีแก้แล้วมันแก้ได้ง่ายมากๆพร้อมแล้วไปดูกันเลย

สำหรับอย่างแรกก็คือ ควบคุมความดันของท่านให้ดี สำหรับเรื่องของเส้นเลือดในสมองที่แตกมากกว่า90%มาจากความดันสูงและมักจะเป็นความดันสูงที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นแต่ว่ากินยาไม่สม่ำเสมอหรือว่าไม่ดูแลตัวเองก็จะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก

ความดันสูง ถ้าเรารักษาได้ดีมันก็ดูเหมือนว่าไม่เป็นอะไรแต่ ถ้าเราไม่ดูแลถึงตายอันตรายมากๆคราวนี้เราควบคุมความดันให้อยู่ในระดับที่ดีก็คือประมาณ120-80 ตับบน 120ตัวล่าง80อันนี้ก็คือสิ่งที่แนะนำ ถามว่าแล้วจะทำยังไงล่ะก็แบบนี้ให้ทานยาตามที่คุณหมอสั่ง สอง ลดเค็มวันหนึ่งไม่ควรกินเกลือเกิน1.5กรัมหรือ1,500มิลิกรัมนั่นเอง

ดังนั้นควรทานไขมันชนิดดีแทนไขมันชนิดเลว ไขมันชนิดดีก็ ไขมันในปลา ไขมันพืช ไขมันในผักพวกนี้จะเป็นไขมันชนิดดี ไขมันชนิดเลวก็คือ พวกมันหมู มันเนื้อ หนังไก่ อย่างนี้ไขมันชนิดเลว ชนิดไม่ดีก็ต้องลดลงผักผลไม้กินเยอะๆ ความดันลดลงออกกำลังกายสัปดาห์ละ150นาทีความดันลดลงหยุดสูบบุหรี่ความดันลดลงนี่ก็คือวิธีแก้อีกอย่างหนึ่ง

เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบก็คือการน้ำหนักนั่นเองแล้วน้ำหนักขนาดไหนถึงจะดีก็จะมีการคำนวณเขาเรียกว่าBMI

ซึ่งการคำนวณBMIนี้สามารถกดหาตามอินเตอร์เน็ตได้กดเข้าไปเลยBMIเขาก็จะเอาส่วนสูงกับน้ำหนักของท่านไปคำนวณถ้าต่ำกว่า25ถือว่าโอเคถ้าต่ำกว่า23ถือว่าโอเคเยี่ยมก็ลองดูว่าต่ำกว่าเท่าไหร่ถึงจะดี

สำหรับทั่วไปเราแนะนำว่าอย่างน้อยขอให้ต่ำกว่า25จะทำให้ฝดอกาสเกิดเส้นเลือดในสมองแตกตีบน้อยลงอย่างชัดเจนแล้วทำให้ความดันควบคุมได้ดี

 

สนับสนุนโดย  วิธีสมัครหวยออนไลน์