เชื่อว่าบ้านทุกบ้านต้องมีแป้งฝุ่นติดบ้านกันทุกหลังอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนหนุ่มสาว รวมถึงคนแก่ ต่างก็ใช้แป้งฝุ่นด้วยกันทั้งนั้น ถึงแม้จะเป็นเด็กทารกก็ยังมีการใช้แป้งฝุ่น อย่างไรก็ตามมีการวิจัยออกมาแล้วว่าการใช้แป้งฝุ่นนั้น ไม่ได้เกิดผลดีเพียงอย่างเดียวเพียงเท่านั้น แต่การใช้แป้งฝุ่นในในบางจุดของร่างกายอาจจะเกิดให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้เช่นเดียวกัน
สาเหตุที่ว่าทำไมการใช้แป้งฝุ่นถึงอาจจะทำให้เป็นโรคมะเร็งได้นั้นก็เพราะว่าในแป้งฝุ่นนั้นจะมีแร่ธาตุตัวหนึ่งที่เป็นส่วนผสมอยู่ในแป้งฝุ่นโดยแร่ชนิดนี้เป็นแร่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการช่วยลดความอับชื้น ทำให้ในแป้งฝุ่นจึงมักมีแร่ชนิดนี้ผสมอยู่ โดยแร่ดังกล่าวมีชื่อว่า ทัลคัม
สำหรับการวิจัยออกมานั้นพบว่า แร่ทัลคัมนี้เองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงในการเกิดโรคมะเร็ง โดยมะเร็งที่เสี่ยงเป็นมากในการใช้แป้งฝุ่นนั่นก็คือ มะเร็งรังไข่กับมะเร็งปอดนั่นเอง
สำหรับวิธีการใช้แป้งฝุ่นที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งทั้งเรื่องของมะเร็งปอดรวมถึงมะเร็งรังไข่นั่นก็คือหากเรามีการทา แป้งตรงบริเวณอวัยวะเพศนั้นมีความเสี่ยงเป็นอย่างมากที่จะทำให้แป้งซึ่งมีส่วนผสมของแร่ทัลคัมกระจายเข้าไปในมดลูกและเข้าไปถึงรังไข่ได้ ดังนั้นจึงห้ามใช้แป้งตรงบริเวณอวัยวะเพศนั้นเอง
ในขณะเดียวกันการใช้แป้งก็ไม่ควรใช้ให้แป้งมีความฝุ้งกันไปมากเกินไปเพราะถ้าหากเรามีการสูดดมแป้งเข้าไปเข้าภายในร่างกายมันจะส่งต่อผงแป้งเข้าไปในปอดได้ และจะส่งผลทำให้เรากลายเป็นมะเร็งปอดนั่นเอง
ดังนั้นการใช้แป้งอย่างปลอดภัยนั่นก็คือการทาบริเวณลำตัวงดการทาบริเวณอวัยวะเพศและการใช้แป้งนั้นควรทาอย่างระมัดระวังพยายามอย่าให้แป้งพุ่งกระจายเข้าไปบริเวณปากหรือแม้แต่จมูกหรือเข้าตาได้เป็นอันขาดและถ้าหากต้องจำเป็นใช้แป้งกับเด็กทารกนั้นควรใช้แป้งอย่างระมัดระวังที่สำคัญควรเลือกแป้งสำหรับใช้กับเด็กเพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตามได้มีการทำการวิจัยออกมาแล้วว่าผู้ที่มีการใช้แป้งทาตรงบริเวณอวัยวะเพศเป็นระยะเวลาติดต่อกันนานหลายปีมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเป็นโรคมะเร็งและเคยมีข่าวฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องของการเป็นโรคมะเร็งกับแป้งยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งมาแล้วซึ่งถ้าหากว่าใครสงสัยว่าตนเองจะมีความผิดปกติหลังจากที่มีการใช้แป้งฝุ่นคุณก็สามารถที่จะไปที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการตรวจและวินิจฉัยอาการให้ได้
สนับสนุนโดย. แทงหวย