ที่จังหวัดมหาสารคามเกิดเหตุคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เดือนสิงหาคมปีพศ2563 เมื่อมีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งได้มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบศพของลูกสาวตนเองนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบมีหญิงสาวอายุ 27 ปีนอนเสียชีวิตอยู่ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะมีการถูกฆ่าตายมาแล้ว
หลายชั่วโมงโดยลักษณะการตายนั้นถูกบีบบริเวณลำคอจนถึงแก่ความตายสำหรับคนที่พบศพหญิงสาวคนแรกนั้นเป็นมารดาของหญิงสาวที่เสียชีวิตเองโดยเธอบอกว่าลูกสาวของเธอนั้นเพิ่งแต่งงานกับแฟนที่อายุมากกว่าได้เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้นและเพิ่งย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ห้องพักแห่งนี้ลูกชายของเธอกับแฟนคราวพ่อนั้นกำลังมีแผนว่าจะแต่งงานกันตอนสิ้นปีนี้และเธอมั่นใจว่าที่ลูกสาวของเธอเสียชีวิตนั้น
เป็นที่แฟนของลูกสาวเธอนั้นเป็นคนฆ่าอย่างแน่นอนเพราะว่าตอนที่เธอเดินทางมาถึงที่ห้องพักของลูกสาวเธอนั้นเพื่อนบ้านบอกว่าเห็นสามีของลูกสาวเธอรีบร้อนออกไปจากห้องและช่วงตอนเย็นของวันที่ 13 เดือนสิงหาคมก็ได้ยินเสียงคนทั้งคู่นั้นทะเลาะกันซึ่งเธอคาดว่าน่าจะเกิดมาจากความหึงหวงเนื่องจากอายุของลูกสาวเธอกับสามีนั้นห่างกันมากจนเกินไปโดยเธอบอกว่าสาเหตุที่เธอมาหาลูกสาวของเธอในวันนี้เพราะเธอต้องการที่จะชวนลูกสาวของเธอให้ไปเป็นเพื่อนไปที่ธนาคารแต่ก็ต้องมาเจอลูกสาวของเธอเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักเสียก่อน
ยังไงก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้มีพยานหลายคนที่เป็นเพื่อนข้างห้องยืนยันว่าช่วงประมาณ 16:00 น ของเมื่อวานคนทั้งคู่นั้นทะเลาะกันเสียงดังอีกครั้งเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งก็เห็นว่าฝ่ายชายนั้นรีบขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปจากห้องพักแล้วก็ไม่กลับเข้ามาที่ห้องอีกเลยจึงเชื่อกันว่าคนที่ฆ่าหญิงสาววัย 27 ปีนั้นก็คือสามีของหญิงสาวนั้นเองซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังมีการติดตามตัวสามีของหญิงสาวมาสอบปากคำเพิ่มเติมโดยอาศัยการตรวจสอบข้อมูลจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือและกล้องวงจรปิดตามถนนต่างๆที่คาดว่าสามีของหญิงสาวน่าจะขี่รถออกไป
สำหรับเหตุการณ์สามี ภรรยา หึงหวงกันและก่อเหตุทำร้ายกันรุนแรงจนถึงแก่ความตายนั้น เรามักจะพบเห็นกันอยู่แทบจะทุกวัน ซึ่งการครองคู่กันควรจะพูดจากันดีดี เพราะผลเสียที่ตามหาหากเรามีการใช้อารมณ์ที่รุนแรงนั้นเยอะมาก อย่างกรณีเหตุการณ์นี้ หากคนร้ายเป็นสามีของผู้เสียชีวิตจริงๆ เขาก็ต้องถูกจับ ต้องไปใช้กรรมในคุกตอนแก่ ซึ่งไม่คุ้มเลย
สนับสนุนโดย แทงหวย